ต้องเจ็บแค่ไหน เราถึงจะยอมเปลี่ยนแปลง

ต้องเจ็บแค่ไหน เราถึงจะยอมเปลี่ยนแปลง

ต้องเจ็บแค่ไหน เราถึงจะยอมเปลี่ยนแปลง !

เมื่ออาทิตก่อนฉันได้อ่านงานโพสต์ของ Anontawong’s Musings เรื่อง ถ้ายังไม่เปลี่ยน (แสดงว่ายังเจ็บไม่พอ)  ที่กล่าวถึงคนเราว่ามีพฤติกรรมนิสัยที่แย่ ๆ และอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น การสูบบุรี่ การเมาแล้วขับ การมาทำงานสาย แต่พวกเขาเหล่านั้นหรือแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยที่แย่ๆ นั้นได้เลย

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่านิสัยคนเราเป็นสิ่งที่ทำซ้ำๆ อยู่สม่ำเสมอทำให้สมองจดบันทึกพฤติกรรมนี้ไว้และกระทำเช่นเดิมเรื่อยมา อีกอย่างหนึ่งคือนิสัยที่แย่ๆ นั้นไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อเราในทันทีทันใด จึงเป็นเรื่องยากที่เราจะเปลี่ยนนิสัยที่เราไม่ต้องการเพียงชั่วข้ามคืน

.

เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงนิสัยแย่ๆ เราต้องผ่านเรื่องความเจ็บปวดหรือบทลงโทษที่มากมายเสียก่อน เปลี่ยนแปลงระดับไหน ระดับที่เกิดผลกระทบในสมองของเรา จนสมองของเราเกิดกระบวนการความเข้าใจแล้วว่าเราต้องหยุด หากไม่หยุดตัวเราจะได้รับอันตรายที่ร้ายแรง และนั่นแหละการเปลี่ยนแปลงจึงจะเกิดขึ้น

.

เช่น คนที่รับรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง พวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองในทันทีทันใด เพื่อที่จะรักษาชีวิตให้ยืนยาวต่อไป หรือเด็กที่เล่นปลั๊กไฟแล้วโดนไฟดูด เด็กคนนั้นก็จะไม่เล่นปลั๊กไฟอีก

.

แล้วถ้าเรายังไม่ได้มีเรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไหม?

คำตอบน่าจะเป็น  ….. ไม่ !

.

ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างตัวของฉันเองที่เป็นคนติดกาแฟมาตั้งแต่สมัยเริ่มทำงาน ทุกวันนี้ฉันยังดื่มกาแฟอยู่ ช่วงที่หยุดดื่มกาแฟได้คือช่วงท้อง เพราะฉันมีแรงผลักดันที่มันมากพอที่จะต้องหยุดดึ่มกาแฟ นั่นก็คือสุขภาพของลูก หลังจากเลิกให้นมลูกแล้ว ฉันก็กลับมาดื่มกาแฟเหมือนเดิม  เพราะอะไร ?

.

เพราะพฤติกรรมของคนเรานั้น จะขอมีความสุขในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มากกว่ามองเป้าหมายของความสุขในระยะยาว

เวลาที่ฉันดื่มกาแฟ ฉันรู้สึกมีความสุข สดชื่น รสชาดของกาแฟและการดื่มด่ำกาแฟตรงหน้าเป็นเรื่องที่น่ารื่นรมณ์ที่สุดสำหรับฉัน แปลว่าฉันเลือกที่จะมีความสุข ณ เวลานี้ ช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละวัน

แต่ฉันไม่ได้คิดถึงผลกระทบของชีวิตในระยะยาว อีก 10 หรือ 20 ปี ข้างหน้า ว่าสุขภาพของตัวฉันเองจะเป็นอย่างไร และผลกระทบจากการดื่มกาแฟเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนั้นจะทำให้ฉันเป็นอย่างไรบ้างในอนาคต ผลการวิจัยจากหลายๆ สถาบันฯ พบว่าการดื่มกาแฟมากๆ จะทำให้กระดูกพรุน ฉันยังไม่เคยจินตนาการถึงวันที่หมอบอกกับฉันว่า ฉันกระดูกพรุน หรือมีคอเลสเตอรอลสูง จากไขมันแย่ๆ ในกาแฟ (กาแฟจริงๆ ก็ไม่ได้แย่ถ้าเราดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ แต่น้ำตาล ครีมเทียม นมข้นหวานน่าจะเป็นตัวปัญหาและวายร้ายตัวฉกาจ)

ส่วนหนึ่งนั่นเพราะฉันยังไม่ได้ผ่านเรื่องที่เจ็บปวดมากๆ จากการดื่มกาแฟ ทำให้ฉันเลิกดื่มกาแฟไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามเลิกมาหลายครั้ง จนเคยเป็นมุขตลกในหมู่เพื่อนสนิทของฉันว่า   ถ้าอยากเลิกจริงๆ ฉันคงต้องไปถ้ำกระบอก

.

ลองย้อนกลับมาถามตัวของคุณเองบ้างไหม คุณเอง มีนิสัยแย่ๆ ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงบ้าง ?

ต้องผ่านความเจ็บปวดมากแค่ไหนคุณถึงจะยอมเปลี่ยนแปลง?

.

Credit : https://anontawong.com


บทความอื่นๆ : วิสัยทัศน์ในการทำงาน Service Mind และเป้าหมายที่เราตั้งไว้

About the author

Leave a Reply